ฤดูใบไม้ร่วงที่เกาหลีเป็นช่วงเวลาที่สวยงามและมีอุณหภูมิที่กำลังพอดี ทำให้การแต่งตัวสนุกยิ่งขึ้น เพราะสามารถเล่นกับการ เลเยอร์เสื้อผ้า และการใช้ พื้นผิว (Texture) ที่หลากหลายได้อย่างเต็มที่ เทรนด์แฟชั่นในช่วงนี้จึงเน้นที่ความเรียบง่ายแต่หรูหรา (Quiet Luxury) ผสมผสานกลิ่นอายย้อนยุค (Retro Revival) และการใช้โทนสีที่อบอุ่น

โทนสีและเนื้อผ้าหลัก (Color Palette & Texture Focus)

โทนสีเอิร์ธโทนที่เข้มข้น (Rich Earth Tones):

  • เป็นหัวใจหลักของแฟชั่นฤดูใบไม้ร่วง ให้ความรู้สึกอบอุ่น นุ่มนวล และหรูหรา
  • สีที่มาแรงได้แก่ สีสนิม (Rust)สีเขียวมะกอก (Olive)สีน้ำตาลเข้ม (Deep Brown), สีกากี (Khaki), และสีโอ๊ตมีล (Oatmeal)
  • มีการใช้สีสดใสอย่างสีมัสตาร์ดหรือสีแดงเบอร์กันดีเป็น สีเน้น (Accent Color) เพื่อสร้างความคอนทราสต์ที่ไม่ฉูดฉาดจนเกินไป

การผสมผสานพื้นผิว (Texture Mixing):

  • ฤดูใบไม้ร่วงคือเวลาที่การผสมผสานเนื้อผ้าที่ต่างกันกลายเป็นจุดเด่น
  • เน้นผ้าที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและมีมิติ เช่น ผ้าถัก (Knit)หนังเทียม (Faux Leather)ผ้าลูกฟูก (Corduroy)ผ้าเดนิม (Denim) และ ผ้าวูล (Wool) เพื่อสร้างความลึกให้กับชุด

ไอเทมหลักสำหรับการเลเยอร์ (Essential Layering Pieces)

1. เสื้อเบลเซอร์ทรง Oversized (Oversized Blazer):

  • เป็นไอเทมที่ให้ลุค Neo-Classic ที่กำลังมาแรง โดยเน้นทรงหลวมแต่มีโครงสร้างที่ชัดเจน
  • นิยมแบบมี ไหล่เสริม (Padded Shoulders) เพื่อให้ดูโฉบเฉี่ยวและมีความเป็นสถาปัตยกรรมมากขึ้น
  • สามารถใส่ทับเสื้อยืด เสื้อคอเต่าบาง หรือแม้แต่ชุดเดรสพลิ้วๆ เพื่อให้ลุคดูสมดุล

2. คาร์ดิแกนไหมพรม (Knitted Cardigan):

  • ยังคงเป็นไอเทมอมตะ แต่มีลูกเล่นมากขึ้น
  • นิยมแบบ ทรง Boxy หรือคาร์ดิแกน Cropped ที่มีความยาวสั้นลง
  • สวมทับเสื้อสายเดี่ยวหรือเสื้อเชิ้ต เป็นการสร้างลุคที่ดูสบายๆ แต่มีสไตล์ (Soft Girl Look)

3. เสื้อกั๊กไหมพรม (Sweater Vest):

  • กลับมาเป็นที่นิยมอย่างมาก ให้ลุคที่ดูสุภาพ เรียบร้อย และวินเทจ
  • เหมาะสำหรับใส่ทับเสื้อเชิ้ตสีพื้น หรือเสื้อแขนยาวบางๆ เพื่อเพิ่มความอบอุ่นและมิติ

4. แจ็คเก็ตหนัง (Leather Jacket):

  • โดยเฉพาะ แจ็คเก็ตหนังวินเทจ (Vintage Collared Leather Jacket) หรือแจ็คเก็ตหนังสีเข้ม
  • ให้ลุคที่ดูเท่ ทันสมัย และมีลูกเล่น สามารถแมตช์ได้ง่ายกับกางเกงยีนส์ขาบาน (Wide-Leg Denim)

ลุคที่โดดเด่นประจำฤดู (Signature Fall Looks)

สไตล์ Neo-Classic & Demure:

  • เน้นความเรียบง่าย สุภาพ และความหรูหราแบบเงียบๆ
  • จับคู่ เสื้อโค้ทเทรนช์ (Trench Coat) หรือเสื้อโค้ททรงยาวกับ กระโปรงพลีท (Pleated Skirts) หรือ กางเกงสแล็คขาเรียว (Tapered Slacks)
  • เลือกใช้ รองเท้า Mary Jane หรือ รองเท้า Loafers คู่กับถุงเท้าข้อยาวเพื่อเพิ่มความน่ารัก

Flannel & Wide-Leg Pants:

  • เสื้อเชิ้ตผ้าสักหลาด (Flannel Shirt) ทรงหลวม เป็นอีกหนึ่งไอเทมที่กลับมา
  • นิยมใส่เป็นเสื้อคลุมทับเสื้อยืดด้านใน แล้วจับคู่กับ กางเกงขาบาน (Wide-Leg Pants) หรือกางเกงเดนิมทรงหลวม เพื่อให้ลุคที่ดูสบายๆ สไตล์สตรีท

The Power of Texture:

  • ชุดเดรสพลิ้วๆ หรือกระโปรงสั้นลายจุด (Polka Dot Revival) ใส่คู่กับ เสื้อคาร์ดิแกนตัวหนา และ รองเท้าบูทหุ้มข้อ (Ankle Boots) หรือ รองเท้าผ้ากลับ (Suede Items)

เครื่องประดับที่ช่วยเสริมลุค (Styling Accessories)

  • หมวกเบเร่ต์ (Wool Beret): ให้ความรู้สึกโรแมนติกและอาร์ตี้ เหมาะกับฤดูใบไม้ร่วง
  • เครื่องประดับมินิมอล: เลือกเครื่องประดับชิ้นเดียวที่โดดเด่น เช่น ต่างหูเงินเรียบหรู หรือสร้อยคอที่ไม่ซับซ้อน
  • กระเป๋าหนังใบเล็ก (Mini Leather Bags): กระเป๋าทรงโครงสร้างสวยงามแต่มีขนาดกะทัดรัด ช่วยยกระดับความหรูหราให้กับชุด

แฟชั่นเกาหลีฤดูใบไม้ร่วงจึงเป็นช่วงเวลาที่ให้คุณสนุกกับการแต่งตัวได้อย่างเต็มที่ โดยเน้นการเลเยอร์อย่างชาญฉลาดและการเลือกใช้สีและพื้นผิวที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นแต่ยังคงความทันสมัยไว้เสมอ และหากคุณต้องการดูเทรนด์แฟชั่นของเกาหลี เว็บไซต์ TTUFU ได้รวมเว็บแบรนด์เกาหลีไว้มากมาย คลิกที่นี่